Translate

Monday, September 23, 2013

ประโยคกำกวมฝึกให้เราคิดไปเรื่อย (แบบวิเคราะห์)

ปกติเวลาเราอ่านอะไรก็ตาม เราก็ต้องคิดตามไปด้วยใช่มั๊ยคะ ทีนี้การคิดของเราในการอ่านแต่ละครั้ง ก็จะลึกซึ้งต่างกัน ถ้าเราอ่านเรื่องบันเทิง เราก็อาจจะไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อ่านเอาพอสนุก แต่ถ้าเป็นเรื่องที่หนักหน่อย เราก็อาจจะคิดหนักขึ้นหรือละเอียดขึ้น เพื่อจับประเด็น (อย่างเช่น การอ่านหนังสือสอบ หรืออ่านเพื่อเอาไปต่อยอดทำงาน เป็นต้น) 

แต่บางครั้งต่อให้เป็นเรื่องที่เบาสมอง ถ้าสำนวนภาษาสามารถตีความได้มากกว่าหนึ่งความหมาย ก็อาจจะทำให้คนอ่านอย่างเราๆงงได้ ประโยคกำกวมเหล่านี้นอกจากจะทำให้เรางงกับเนื้อหาแล้วยังทำให้เสียเวลาในการหาคำตอบว่าจะสื่อถึงความหมายอะไรกันแน่ มาลองดูตัวอย่างประโยคต่อไปนี้กันดีกว่า

He likes me more than you.

ประโยคนี้แปลว่าอะไรคะ

หลายคนอาจจะบอกว่า ง่ายจะตาย ก็แปลว่า เขาชอบฉันมากกว่าคุณ ลองดูใหม่นะคะ ตกลงมันแปลว่า เขาชอบฉันมากกว่าที่เขาชอบคุณ หรือ เขาชอบฉันมากกว่าที่คุณชอบฉัน กันแน่ ลองมาดูการถอดความหมายภาษาอังกฤษของประโยคกัน He likes me more than he likes you. หรือ He likes me more than you does. กันเอ่ย สองประโยคนี้ ความหมายต่างกันแน่นอนค่ะ

ถ้าลองดูประโยคแรก He likes me more than he likes you. I จะมีเพศเดียวกันกับ you  แต่ถ้าประโยค He likes me more than you does. he กับ you จะเป็นเพศเดียวกัน (ไม่ขอระบุเพศละกัน เดี๋ยวนี้มีหลากหลาย เดี๋ยวจะหาว่าจำกัดกันเกินไป) ดังนั้นประโยคนี้ที่ดูเหมือนจะแปลความหมายได้ง่ายๆ แต่จริงๆแล้ว สื่อความออกมาไม่ชัดเจน เลยไม่รู้ว่าตกลงใครชอบใครมากกว่ากัน ดังนั้นถ้าจะทำประโยค He likes me more than you. ให้ชัดเจน ก็ควรเขียนว่า He likes me more than he likes you. หรือ He likes me more than you does. 




มาดูประโยคนี้กันต่อ

I want Melissa to go there with me instead of Jennifer.

งงไหมคะ ว่าสรุป ฉันต้องการให้ Melissa ไปกับฉันแทนที่ Melissa จะไปกับ Jennifer หรือ ฉันต้องการให้ Melissa ไปกับฉัน ไม่ใช่ Jennifer ไปกับฉัน (อ่านดีๆนะคะ ไม่งั้นจะงงได้ง่าย) ดังนั้นถ้าประโยคตีความได้สองทางแบบนี้ เราก็ต้องเรียบเรียงใหม่ให้ชัดเจนขึ้นค่ะ

I want Melissa to go there with me instead of going there with Jennifer. หรือ I want Melissa, instead of Jennifer, to go there with me.


คำบางคำก็สื่อความหมายได้ไม่ชัดเจนในตัวเองนะคะ เช่น Mr. Mathieu is our new French teacher. คำว่า French teacher อาจจะแปลว่าเป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศส (ซึ่งอาจจะเป็นคนชาติอื่น เช่น แคนาเดียน) หรืออาจจะแปลว่าเป็นครูที่มาจากประเทศฝรั่งเศส (แต่สอนวิชาอื่น) ก็ได้ ดังนั้นถ้าต้องการสื่อความหมายให้ชัดเจน อาจจะพูดว่า 

Mr. Mathieu is our new teacher who will teach French. หรือ Mr. Mathieu is our new teacher who comes from France.

หรือประโยคนี้ที่ว่า

He gave her cat food.

เขาให้อาหารกับแมวของเธอ หรือ เขาเอาอาหารแมวให้เธอ (เป็นไปได้ว่าเธอฝากซื้ออาหารแมว คงไม่ได้หมายความว่า เธอมีรสนิยมแปลกๆ ชอบรับประทานอาหารแมว - ผู้เขียน) ประโยคนี้ก็กำกวมค่ะ ดังนั้นประโยคควรนำมาเรียบเรียงใหม่

He gave her cat some food. หรือ He gave cat food to her. 

ประโยคที่เรียบเรียงใหม่ที่ยกตัวอย่างมาให้ดู อาจจะเรียบเรียงแบบอื่นก็ได้นะคะ เพียงแต่ขอให้สื่อความหมายได้ความหมายเดียวและชัดเจน เพื่อผู้อ่านหรือผู้ฟังจะได้ไม่เข้าใจผิดค่ะ

ในฐานะนักอ่าน ถ้าเราเริ่มงงกับเนื้อเรื่อง ก็ลองวิเคราะห์ดูว่า เราสามารถจะแปลความหมายเป็นแบบอื่นได้หรือไม่ ซึ่งถ้าเราฝึกการวิเคราะห์ตรงนี้จนเคยชิน เราก็จะมีความรอบคอบในการใช้ภาษามากขึ้น เห็นไหมคะว่า การเจอประโยคกำกวมบ่อยๆ ก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสียอย่างเดียว ถ้าเรารู้จักวิเคราะห์แล้ว เราก็จะมีความสามารถในการแปลจากการอ่านได้หลายมุมมากขึ้น หรือแม้แต่ถ้าเราจะเป็นคนเขียนหรือคนเรียบเรียงประโยคเอง เราก็จะได้ข้อเตือนใจจากประโยคกำกวมที่เคยเห็น เพื่อที่เราจะได้ไม่พลาดที่จะสื่อความหมายให้ถูกต้องชัดเจนนะคะ

หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามและติดตามเราได้ทาง Facebook ที่ชื่อว่าKnowledge Is All Around  (https://www.facebook.com/knowledgeisallaround) นะคะ

References:
Reader's Digest: How to Write and Speak Better
http://elicincanan.edublogs.org
http://answers.yahoo.com